SCBX Group มุ่งสู่การเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงิน NET ZERO ภายใน 2050
SCBX Group ประกาศพันธกิจสำคัญมุ่งสู่ 2050 Net Zero ร่วมกับองค์กรชั้นนำระดับโลก พร้อมเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและกระตุ้นสังคมอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ร่วมสร้างธุรกิจและสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะมาถึง
ความตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อจำกัดอุณหภูมิโลกเฉลี่ยให้สูงขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อควบคุมไม่ให้เพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เป็นข้อตกลงครั้งสำคัญที่จะชะลอการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประชาคมโลก เพื่อหยุดยั้งความหายนะของสภาพแวดล้อมที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลและบริษัทระดับโลกได้ร่วมกันเร่งการออกนโยบายและประสานความร่วมมือเพื่อหยุดยั้งหายนะภัยให้ทันภายในปี 2050 ที่จะถึงนี้
กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ในฐานะองค์กรขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาค ตระหนักถึงบทบาทสำคัญและความรับผิดชอบต่อสังคมและคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นมาในโลกที่อาจจะประสบกับสภาวะสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายกว่าเดิมมาก กลุ่มฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนร่วมในการหยุดยั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกรูปแบบเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยตั้งพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพันธกิจหลักในการสนับสนุนข้อตกลงโลกที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจที่ SCBX Group ดูแลอยู่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) จากการดำเนินงานภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุนภายในปี 2050 ตามที่ประชาคมโลกได้ตกลงใน Paris Agreement ไว้ผ่านยุทธศาสตร์สำคัญสี่ประการด้วยกัน
ประการแรก กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ จะมุ่งปรับเปลี่ยนแก้ไขกระบวนการการดำเนินงานและการจัดการภายในด้านพลังงาน พร้อมลงทุนให้มีการใช้พลังงานสะอาดและการปล่อยคาร์บอนที่ต่ำที่สุด ทั้งด้านการบริหารจัดการอาคาร (Smart Building) การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทดแทนยานพาหนะปัจจุบันทั้งหมด
ประการที่สอง กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ได้ตั้งวงเงินสินเชื่อ 200,000 ล้านบาทภายในปี 2030 สำหรับการปล่อยสินเชื่อสำหรับธุรกิจหรือโครงการที่ต้องการมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการสร้างการรับรู้อย่างเข้มข้น พร้อมช่วยให้คำปรึกษาและวางแผนให้กับธุรกิจที่มีความประสงค์ที่จะมุ่งสู่ Net Zero จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
ประการที่สาม กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ จะเข้าร่วมลงทุนในกองทุนระดับโลกและบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีในการดักจับและกักเก็บ การใช้ประโยชน์ รวมถึงการลดและการกำจัดคาร์บอน ในวงเงินเบื้องต้นที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการลดคาร์บอนในวงกว้าง เช่น แพลตฟอร์มการให้เช่ายานพาหนะ EV เป็นต้น
ประการที่สี่ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ จะนำตัวเองเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลกด้วยการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานของ PCAF (Partnership for Carbon Accounting Financials) และการกำหนดเป้าหมายให้สองคล้องกับ Paris Agreement ตามมาตรฐาน SBTi (Science Based Targets Initiative) ซึ่งกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกของไทยที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก PCAF และ SBTi รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐาน TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) เพื่อยกระดับความโปร่งใสอย่างเข้มข้นที่จะบรรลุเป้าหมายในทุกภาคส่วนให้ได้
กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ มีความกังวลเป็นอย่างมากถึงปัญหาสภาพแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะมีผลกระทบต่อโลกโดยรวมในทศวรรษหน้า จึงมีความตั้งใจอย่างสูงสุดที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนทุกวิถีทางที่กลุ่มฯ จะทำได้ เพื่อโลกที่น่าอยู่และธุรกิจที่ยั่งยืนสำหรับลูกหลานของเราในรุ่นต่อไป
เกี่ยวกับ PCAF
The Partnership for Carbon Accounting Financials (PCAF) เป็นองค์กรความร่วมมือระดับโลกของสถาบันการเงินที่ได้พัฒนามาตรฐานสากลสำหรับการประเมินและการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อและการลงทุน เพื่อช่วยให้สถาบันการเงินสามารถกำหนดเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือ Science-based targets และบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอที่สอดคล้องตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ปัจจุบัน มีสถาบันการเงินทั่วโลกมากกว่า 280 แห่ง ใน 60 ประเทศ ลงนามข้อตกลงเป็นสมาชิก PCAF แล้ว
เกี่ยวกับ SBTi
The Science Based Targets initiative (SBTi) เป็นองค์กรความร่วมมือระดับโลกระหว่าง CDP, United Nations Global Compact, World Resources Institute (WRI) และ World Wide Fund for Nature (WWF) ที่มีวัตถุประสงค์ในการเร่งผลักดันให้ภาคเอกชนมีความมุ่งมั่นในการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการกำหนดเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือ Science-based targets ที่สนับสนุนตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ปัจจุบัน มีบริษัททั่วโลกมากกว่า 3,330 แห่ง ลงนามข้อตกลงเป็นสมาชิก SBTi แล้ว