Key Highlights
- เราสามารถใช้ AI เชน ChatGPT เป็นครูสอนภาษาส่วนตัวได้: และสามารถช่วยปรับการเรียนการสอนให้เหมาะกับสไตล์ของผู้เรียน ไม่ว่าจะต้องการเรียนช้าหรือเร็ว ฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และฝึกได้ทุกที่ ทุกเวลา
- การเรียนรู้ภาษากับ AI ได้ผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น Duolingo, Grammarly และ Otter.ai ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับทักษะภาษาของผู้เรียนด้านต่างๆ โดยเฉพาะ
- AI เป็นเพียงเครื่องมือ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลก่อนใช้งาน: แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่การใช้งานอย่างชาญฉลาดต้องมาพร้อมกับการตรวจสอบข้อมูลเสมอ เพราะ AI ยังมีข้อจำกัด และเราควรใช้มันเป็นผู้ช่วยในการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนที่การคิดวิเคราะห์ของเราเอง
Keynote: Leveraging AI for Content Creation and Modern Language Learning โดย คุณคะน้า ผ่องพิสุทธิ์ จงอุดมสุข ผู้ก่อตั้ง Farang Angmor
วิชาภาษาต่างประเทศ คือวิชาการเรียนรู้ที่มีความยากและท้าทาย แม้เราจะเรียนภาษามานาน แต่เชื่อว่าหลายคนยังมีปัญหาในการใช้งานจริงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการไม่กล้าพูด พอกล้าพูดก็พูดติดขัด ผิดหลักแกรมม่า ใช้คำที่ไม่ถูกต้อง และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่เมื่อโลกมี Generative AI มันกลับกลายเป็นสิ่งที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดลงได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
ในงาน SCBX Unlocking AI: Ep.11 – Elevate Your Game: AI Tools for Modern Works คุณคะน้า ผ่องพิสุทธิ์ จงอุดมสุข ผู้ก่อตั้ง Farang Angmor ได้บรรยายในหัวข้อ Leveraging AI for Content Creation and Modern Language Learning เพื่ออธิบายว่าเราสามารถนำ AI มาช่วยให้เรียนภาษาและพัฒนาทักษะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไรได้บ้าง
ใครพลาดการบรรยายหัวข้อนี้ไป SCBX สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันแล้วดังต่อไปนี้
เรื่องเล่าจากนิทาน ที่ยึดโยงสู่โลกแห่งความเป็นจริง
คุณคะน้า เริ่มการบรรยายด้วยการเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยเมือง 2 เมืองที่ห้ำหั่นทำสงครามใส่กันด้วยดาบ หอก หรืออาวุธยุคเก่า ขณะที่กำลังสู้รบกันอยู่ มีนายหน้าค้าอาวุธรายหนึ่งเข้าไปหาผู้นำเมืองแรกพร้อมเสมออาวุธใหม่อย่างปืนกลให้ใช้ ปรากฏว่าผู้นำเมืองนั้นไม่สนใจเอามาใช้งาน เพราะคิดว่าสิ่งที่ใช้อยู่นั้นดีอยู่แล้ว นายหน้าเลยไปคุยกับผู้นำเมืองที่ 2 ซึ่งปรากฏว่า ผู้นำเมืองนี้ตัดสินใจซื้ออาวุธใหม่เหล่านี้มาใช้ทันที และทำให้เมืองนี้ที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาใช้ปืนเป็นอาวุธแทน กลายเป็นผู้ชนะ
คุณคะน้าเล่านิทานเรื่องนี้เพื่อสะท้อนว่า การยึดติดกับวิธีการเดิมๆ อาจทำให้เราพลาดโอกาสครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ในเมื่อเราสามารถใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้ มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไม่ใช้งานมันด้วย
ครูสอนภาษาชื่อ AI ครูส่วนตัวที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย
คุณคะน้าเล่าว่า GenAI ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยตรวจการบ้านหรือแก้ไวยากรณ์ธรรมดาๆ แต่มันคือครูสอนภาษาส่วนตัวที่พร้อมสอนคุณ 24/7 โดยไม่มีวันเหนื่อย ซึ่งแน่นอนว่าครูที่เป็นมนุษย์ไม่สามารถทำได้
ที่สำคัญ การใช้ AI เป็นครู เราสามารถป้อน Prompt เพื่อปรับสไตล์การสอนให้เข้ากับสไตล์การเรียนรู้ของเราได้โดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะชอบเรียนรูปแบบไหน เร็วหรือช้า ชอบเรียนผ่านเกมหรือการฝึกปฏิบัติ AI สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับคุณได้ทั้งหมด
โดยหนึ่งใน Prompt สำหรับสั่ง AI ให้ปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสมที่คุณคะน้ายกมาเป็นตัวอย่างก็คือ
“I want to learn / get better at [insert skill]. I am a complete beginner. Create a 30 day learning plan that will help a beginner like me learn and improve this skill.”
หนึ่งในข้อดีมากๆ ของการใช้ AI ช่วยสอนภาษาก็คือ ทำให้เราสามารถฝึกฝนการพูดได้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เราไม่จำเป็นต้องออกไปอยู่ในย่านที่มีแต่ชาวต่างชาติ เพื่อหาชาวต่างชาติสักคนมาพูดคุยด้วย แต่เราสามารถพูดคุยกับ ChatGPT ได้เลย รู้หรือไม่ว่าโหมด Speak ของ ChatGPT มีความเป็นธรรมชาติมากๆ สามารถโต้ตอบกับเราได้เหมือนคุยกับคนจริงๆ
โดยหากนึกไม่ออกว่าจะให้มันช่วยสอนอะไร ก็สามารถพูดเพื่อป้อนคำสั่งได้ดังนี้
“I want you to be my conversation partner to help me improve my English speaking skills”
ที่สำคัญ เราไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหัวเราะเยาะเมื่อออกเสียงผิดหรือใช้ไวยากรณ์ไม่ถูก เพราะ ChatGPT จะคอยให้คำแนะนำอย่างใจเย็น ไม่มีการตัดสิน ทำให้สามารถฝึกฝนได้อย่างเต็มที่ และเราสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้จะมีเวลาว่างสั้นๆ แค่ 5 นาทีก็เรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์จริงได้
ด้วยเหตุนี้เอง คุณคะน้าบอกเลยว่าอาชีพครู ไม่ว่าจะสอนภาษาหรือสอนวิชาอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะคนจะคิดว่า ถ้าเราเรียนกับ ChatGPT ได้ เราจะต้องเรียนกับคนอยู่ทำไม นั่นจึงเป้นเหตุผลที่เรายิ่งต้องตื่นตัว จะได้ไม่อาจเป็นฝ่ายโดนมันมาแทนที่ในบั้นปลาย
อยาก เก่งภาษาขึ้นแบบก้าวกระโดด เครื่องมือเหล่านี้ช่วยคุณได้
เราสามารถใช้ ChatGPT เป็นคู่สนทนาเพื่อฝึกทักษะการพูดในสถานการณ์ต่างๆ ได้อยู่แล้ว ไปจนถึง Gemini และ Claude ซึ่งเป็น Generative AI ชั้นแนวหน้า แต่หากใครอยากมองหาเครื่องมือเพิ่มเติมที่มีฟังก์ชั่น AI ช่วยยกระดับทักษะภาษาล่ะก็ คุณคะน้ายกตัวอย่างโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ และใช้งานได้จริงดังนี้
- Duolingo: แอปพลิเคชั่นสำหรับการเรียนรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ผ่านเกม
- Elsa Speak: แอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกการพูด การออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษา
- Loora: แอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกการพูด AI สามารถตอบโต้ มีปฏิสัมพันธ์กับเราได้แบบเรียลไทม์
- Otter.ai แอปพลิเคชั่นสำหรับการฝึกฟัง สรุปการประชุมภาษาต่างประเทศ
- Grammarly แอปพลิเคชั่นสำหรับปรับแก้แกรมม่าเวลาเขียน พร้อมช่วยให้แนวทางว่าควรเขียนอย่างไรจึงจะถูกต้อง เหมาะสมกับตามแต่ละสถานการณ์
- Paperpal โปรแกรมช่วยเขียนงาน เกลา และปรับโทนงานเขียนให้มีความวิชาการ (Academic) มากขึ้น
- Quillbot โปรแกรมช่วยตรวจแกรมม่า และช่วย Paraphase ประโยคให้มีความแตกต่าง แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
- Humata.ai โปรแกรมช่วยข้อคว้าข้อมูล พร้อมการอ้างอิงที่เชื่อถือได้
ใช้ AI อย่างฉลาด เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
การเรียนภาษาในยุค AI ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป แต่กลับเป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายและการปรับใช้อย่างเหมาะสม AI จะเป็นเพื่อนคู่คิดที่ช่วยให้การเรียนภาษาของคุณสนุก มีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
แต่ถึงแม้ AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง คุณคะน้าก็เน้นย้ำเสมอว่า อย่าลืมว่ามันเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยเราทำงาน ต่อให้เราจะเอามาช่วยเขียน ช่วยแปล เราก็ไม่ควรเชื่อข้อมูลจาก AI 100% โดยไม่ตรวจสอบก่อน
“การใช้ AI อย่างชาญฉลาดคือการนำมันมาเป็นผู้ช่วยในการเรียนรู้ ไม่ใช่มาแทนที่การคิดวิเคราะห์ของเราเองค่ะ” ผู้ก่อตั้ง Farang Angmor ทิ้งท้าย
