Foundation of Agentic AI Workflow: Use Cases and How SCBX Can Adopt This Technology จากงานสัมมนา SCBX Unlocking AI

: Foundation of Agentic AI Workflow: Use Cases and How SCBX Can Adopt This Technology จากงานสัมมนา SCBX Unlocking AI

Foundation of Agentic AI Workflow: Use Cases and How SCBX Can Adopt This Technology จากงานสัมมนา SCBX Unlocking AI

SCBX Unlocking AI Ep.12 - Agentic AI: A New Era of Autonomy

Key Highlights

  • Agentic AI คือระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอัตโนมัติ สามารถทำงานได้อย่างอิสระ ตัดสินใจ และวางแผนได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดภาระงานที่ซับซ้อนภายในองค์กร
  • SCBX พัฒนา Agentic AI ภายใต้ 4 หลักการสำคัญ คือ Self-Reflection, Tools Integration, Planning, และ Multi-agent Collaboration เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ AI Agent อย่างต่อเนื่อง
  • SCBX นำ AI Agent ที่พัฒนาแล้วมาใช้กับงานในองค์กรหลายด้าน เช่น ทำ HR Chatbot เพื่อพูดคุยสื่อสารกับพนักงานโดยตรง การใช้ทำงานด้านการตลาด ทำ Market Research และการย่อยและสรุปข่าวด้านการเงินและการลงทุน เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจและการดำเนินงานในองค์กรให้แกร่งขึ้นต่อไป

ในยุคที่ธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน Agentic AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากที่สุด ความสามารถของมันไม่เพียงแต่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังสามารถตัดสินใจ วางแผน และปรับตัวตามสถานการณ์ได้เอง กลายเป็นเครื่องมือที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกนำมาใช้เพื่อเสริมศักยภาพการทำงาน ทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต การลดต้นทุน และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ

สำหรับธุรกิจ Agentic AI ถือเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขัน เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการทำงาน แต่ยังสามารถช่วยบริหารจัดการงานที่ซับซ้อนและหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดการพึ่งพามนุษย์ในงานประจำ เปิดโอกาสให้บุคลากรสามารถมุ่งเน้นการทำงานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้มากยิ่งขึ้น

ในงาน SCBX Unlocking AI Ep.12 ดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead ของ SCBX ได้บรรยายเรื่อง Foundation of Agentic AIWorkflow: Use Cases and How SCBX Can Adopt This Technology โดยให้ภาพรวมถึงความก้าวหน้าและการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ใน SCBX พร้อมกรณีศึกษาและแนวทางการพัฒนาที่องค์กรได้ใช้ไป

ใครพลาดการบรรยายหัวข้อนี้ไป SCBX สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันแล้วดังต่อไปนี้

เปิดนิยาม Agentic AI

Agentic AI คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ประกอบด้วย AI หลายตัว ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันและดำเนินการได้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์อย่างใกล้ชิด ระบบนี้สามารถตัดสินใจและดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยใช้ข้อมูลและทรัพยากรที่มีอยู่ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตัวและพัฒนาตนเองตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ

ทำไมถึงเกิดกระแสไฮป์ Agentic AI ขึ้นมา คำตอบคือคุณ Andrew Ng ศาสตราจารย์ที่ Stanford ผู้ได้รับการยกย่องอย่างมากว่าเป็นมันสมองด้าน AI ระดับโลกที่ทุกคนให้การยอมรับ เคยบรรยายไว้ไม่นานนี้ถึงการเอา Agentic AI มาใช้ว่าดีหรือไม่ อย่างไร ทำให้ผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในสายเทคโนโลยีตื่นตัวกับปัญญาประดิษฐ์ชนิดนี้ นำมาสู่การศึกษา และพัฒนา จนมีโมเดลที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายหลายโมเดล

พัฒนาการของ Agentic AI ในปัจจุบัน

ดร.ทุตานนท์ เปิดข้อมูลว่า การพัฒนา Agentic AI ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญและองค์กรชั้นนำ เช่น Google, Microsoft, และ Meta ซึ่งได้ลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีนี้ 

แต่ดร.ทุตานนท์ตั้งข้อสังเกตว่า เราจะต้องลงทุนเม็ดเงินมหาศาลเพียงใดจึงจะได้มันสมองกลที่ฉลาดมากๆ แบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่า OpenAI, Google หรือ Microsoft อาจไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนและทรัพยากรในการพัฒนา แต่หากองค์กรขนาดเล็กจะพัฒนามันเพื่อนำมาใช้งานเอง ก็น่าจะสู้เจ้าใหญ่ในท้องตลาดไม่ได้แน่นอน

นำไปสู่คำถามต่อมาว่า แล้วองค์กรขนาดเล็กสามารถทำอะไร หรือหาอะไรมาใช้ทดแทนได้บ้าง เพื่อจะได้ใช้งาน Agentic AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

แต่ ดร.ทุตานนท์ โชว์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการวัดประสิทธิภาพของ Agentic AI จากการใช้ ChatGPT พบว่าถึงแม้ GPT-3.5 จะมีศักยภาพน้อยกว่า GPT-4 ในเรื่องการประมวลผลพื้นฐาน เพราะเป็นโมเดลขนาดเล็กกว่า แต่เมื่อเสริมด้วยความสามารถ 3 ด้านที่จำเป็นคือด้าน Reasoning, Action, และ Perceiving ประสิทธิภาพของ GPT-3.5 กลับสูงขึ้นและเหนือกว่าประสิทธิภาพของ GPT-4 ไม่น้อย และนี่จะเป็นทางออกที่องค์กรขนาดเล็กสามารถนำมาใช้ได้

หากจะมีข้อเสียอยู่บ้างก็คือ พอให้ GPT-3.5 เรียนรู้ Reasoning, Action, และ Perceiving จะแลกมาด้วยความเร็วที่ช้าลง อย่างไรก็ตาม ดร.ทุตานนท์ ก็ยังเชื่อมั่นว่าหากเทคโนโลยีพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ล่ะก็ ความเร็วจะยิ่งเพิ่มขึ้นแน่นอน และมันจะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป

กรณีศึกษา การนำ Agentic AI มาใช้งานใต้ร่ม SCBX

SCBX เป็นองค์กรที่ลงทุนและพัฒนา Agentic AI ผ่านการสร้าง Agentic Workflow ซึ่งมีกรณีศึกษาหลายตัวอย่างที่โดดเด่น ดังนี้

  • HR Chatbot: SCBX พัฒนา Chatbot ที่ใช้ AI Agent ในการสื่อสารกับพนักงานเรื่องต่างๆ เช่น การถามตอบข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีความแม่นยำกว่า 90% และพนักงานสามารถใช้งานได้จริง พูดคุยตอบโต้กับมันได้จริงแล้ว
  • AI Agent ช่วยทำงานการตลาด: SCBX ใช้ AI Agent ในการหาข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและนำมาใช้ประโยชน์ในการทำ Market Research นำมาใช้ประโยชน์ด้านการตลาดขององค์กรต่อไป
  • AI Agent ช่วยสรุปและติดตามข่าวสารเรื่องการเงินการลงทุน: SCBX ยังนำ AI Agent มาใช้เพื่อช่วยติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน มันสามารถเก็บ สรุป และให้ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เวลาองค์กรต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในด้านใดด้านหนึ่งเพิ่มเติม

ดร.ทุตานนท์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การพัฒนา Agentic Workflow ของ SCBX นั้นใช้เทคนิคหลัก 4 ประการ ได้แก่:

  1. Self-Reflection: AI สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างอัตโนมัติโดยการประเมินและเรียนรู้จากการทำงานของตัวเอง
  2. Tools Integration: การนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การใช้ AI ในการทำงานร่วมกับเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล
  3. Planning: AI ถูกออกแบบให้คิดและวางแผนเป็นขั้นตอน (Chain of Thought) เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
  4. Multi-agent Collaboration: ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่ SCBX ใช้ AI Agent หลายตัวคอยทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

แต่เหนืออื่นใด ดร.ทุตานนท์ ได้สรุปสาระสำคัญไว้ว่า ทุกการวิจัยและพัฒนาของ SCBX จะต้องคำนึงถึง Working Principle 3 หลักใหญ่ๆ คือ

  1. Technical Feasibility
  2. Human Desirability
  3. Business Viability

กล่าวคือ การสร้างเทคโนโลยีล้ำสมัยให้มีคุณค่า ต้องคำนึงถึงความต้องการของมนุษย์ผู้ใช้งานด้วยว่า เขาต้องการนำมันมาใช้งานอย่างไร เพื่ออะไร และที่สำคัญเพื่อแก้ปัญหาอะไร นอกจากนั้นแล้วหากหาคำตอบได้ว่าจะนำมันมาช่วยเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจให้กับองค์กรได้อย่างไร

มิฉะนั้นแล้ว ต่อให้มีเทคโนโลยีทีเด็ดเพียงใด มันก็จะไม่สามารถสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้เพิ่มสูงขึ้นได้เลย

บทสรุป

การพัฒนา Agentic AI ใน SCBX เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานในองค์กรจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา HR Chatbot การหาข่าวสารการลงทุน หรือการขยายตลาดการลงทุน SCBX ได้นำเทคนิคหลายประการมาใช้เพื่อให้ AI สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม การพัฒนา Agentic AI ยังต้องอาศัยการวิจัยและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และ SCBX ก็หวังว่า การมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อมนุษย์ องค์กร รวมไปถึงต่อโลกในอนาคต

ผู้เขียน:

SCBX contributor
SCBX contributor

More Insights for you

Stay up to date with our latest content

Our interested news more

Up to date with our interested news