การเสวนาภายใต้หัวข้อ “Banking a transitioning Asia: Digital dollars and green sense” ณ งาน Singapore FinTech Festival 2024 คุณดาลัด ตันติประสงค์ชัย Chief Operating and International Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ได้กล่าวถึงแนวทางที่กลุ่มธุรกิจการเงินที่เก่าแก่ที่สุดของไทยกำลังปรับตัวเพื่อเป็นผู้นำด้านการเงินสีเขียวในระดับภูมิภาค
ประเทศไทยกำลังเติบโตและก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ SCBX ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินที่มีอายุยาวนานกว่า 117 ปี กำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากนวัตกรรมดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ
“เมื่อประมาณสองปีครึ่งที่ผ่านมา เราได้ตัดสินใจเชิงโครงสร้างในการจัดตั้ง SCBX เป็นบริษัทโฮลดิ้ง เราได้นำธนาคารไทยพาณิชย์มาอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินนี้” คุณดาลัด อธิบาย “ส่วนหนึ่งของแนวคิดพื้นฐาน คือ การมองหากรอบการเติบโตใหม่ หรือ S-Curve ที่ตอบสนองต่อแนวโน้มระดับโลกที่กำลังมาบรรจบกัน โดยประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศได้ถูกระบุให้เป็นหนึ่งในสามเสาหลักเชิงกลยุทธ์ของเรา”
บทบาทสองด้าน: ความยั่งยืนภายในองค์กร และพันธกิจเชิงกลยุทธ์ในการเป็น “Climate Orchestrator” ชั้นนำในระดับภูมิภาค
กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ SCBX มีสองมิติ คือ การสร้างความยั่งยืนภายในองค์กร และการใช้มิติด้านสภาพภูมิอากาศเป็นเครื่องมือสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทในเครือและลูกค้า “เราตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืนภายในองค์กร” คุณดาลัด กล่าว “นอกจากนี้ เรายังมองว่าด้านสภาพภูมิอากาศ คือ โอกาสทางธุรกิจที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพื่อสร้างการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว”
กลยุทธ์ของ SCBX ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการดำเนินงานภายใน แต่ยังมีบทบาทในฐานะ “ผู้ประสานความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศ”
ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรามีมุมมองที่จะช่วยขับเคลื่อนและเชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลากหลายภาคส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศให้มาร่วมแก้ปัญหา ยกระดับโซลูชัน ตลอดจนการระดมทุนและการลงทุนที่จำเป็น ไม่เพียงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านระบบนิเวศสีเขียวแห่งอาเซียน แต่ยังเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารความเสี่ยงผ่านความร่วมมือ
ในการจัดการกับความท้าทายด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุณดาลัด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
“การบริหารความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งในชีวิตการทำงานและการตัดสินใจทางธุรกิจ และในฐานะนักการเงิน DNA ของเรา คือ ความรอบคอบในการบริหารความเสี่ยง
SCBX ใช้กลยุทธ์ดึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่ามาร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นในภาคยานยนต์ไฟฟ้า ความมั่นคงทางอาหาร หรือพลังงานหมุนเวียน คุณดาลัด กล่าวว่า “คุณจำเป็นต้องปรับและประสานผลประโยชน์ของผู้มีบทบาทสำคัญเหล่านี้ให้สอดคล้องกัน” พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทของธนาคารในฐานะผู้เล่นที่เป็นกลางในการประสานความร่วมมือเหล่านี้
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับภาครัฐ
กลุ่ม SCBX มีบทบาทเชิงรุกในการช่วยกำหนดนโยบายระดับประเทศ โดยได้ร่วมมือกับ McKinsey ในการจัดทำแผนแม่บท Green Growth Master Plan สำหรับประเทศไทย
“เราได้ร่วมกันศึกษาภายในกับ McKinsey เพื่อช่วยรัฐบาลพิจารณาว่าแผนแม่บท Green Growth Master Plan ของประเทศไทยควรมีหน้าตาเป็นอย่างไร และประเทศไทยจะมีบทบาทในระดับภูมิภาคและในประเทศอย่างไร เพื่อยกระดับตัวเองให้เป็นศูนย์กลางและตัวเร่งในระบบนิเวศสีเขียวได้อย่างไร” คุณดาลัด กล่าว
การจัดการกับความท้าทายในการดำเนินการ
หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่ SCBX ระบุ คือ การประเมินและจัดหาเงินทุนสนับสนุนสำหรับโครงการด้านสภาพภูมิอากาศขนาดใหญ่ คุณดาลัด อธิบายว่า “ธนาคารแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงของโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล และโครงการด้านสภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่มีลักษณะเช่นนี้”
เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ SCBX มุ่งเน้นพัฒนาขีดความสามารถภายในเพื่อระบุและจัดลำดับความสำคัญของโครงการ พร้อมทั้งพัฒนาโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงรูปแบบใหม่ และสร้างสภาพคล่องในตลาดผ่านระบบนิเวศของนักลงทุนที่มีความหลากหลายในด้านระดับความเสี่ยงและความต้องการเงินทุน
กลยุทธ์ของ SCBX สะท้อนถึงแนวทางที่ครอบคลุมด้านการเงินอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะสถาบันที่ต้องเผชิญกับความท้าทายสองด้าน ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ